รู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้ : บทความเกี่ยวกับอาหารไทย

 


 


 
 

จัดจับสำรับอาหารไทย

คนไทยเป็นชนชาติที่มีความละเอียดอ่อนยิ่งนัก ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และจิตรกรรม ที่สร้างจากฝีมือคนไทย ทุกชิ้นล้วนถูกประดิษฐ์ ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง ชิ้นส่วนทั้งใหญ่น้อย ถูกนำมาวางเรียง และประกอบเข้าจนเกิดเป็นความงดงามไร้ที่ติ ลายเส้นสีทุกเส้น สื่อถึงความนิ่มนวล ประดุจดั่งการร่ายรำ อันอ่อนช้อยที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างไม่จบสิ้น
วัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่ง ที่แสดงถึงความละเอียดอ่อนได้ดีคือ วัฒนธรรมการกิน คนไทยเรากินข้าวเป็นหลัก เนื่องจากข้าวเป็นอาหาร ที่ย่อยง่าย มีแคลอรีต่ำ ส่วนกับข้าวจานต่างๆ จะต้องนำไปหั่น ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเสียก่อน เนื่องจากสมัยนั้นยังไม่มี ช้อนหรือส้อม ไว้สำหรับกินข้าว คนไทยเราใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้ง ในการกิน ซึ่งเราเรียกว่า การเปิบ ประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการกินแบบการเปิบ เช่นเดียวกับคนไทย ได้แก่ แขกมลายู แอฟริกา และพม่า ส่วนช้อนส้อมเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึง ประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเข้าแพร่หลายในหมู่เจ้านาย และพระสงฆ์ จากนั้นนานพอควรทีเดียว กว่าปุถุชนธรรมดา จะได้จับช้อนส้อมกินข้าวกัน ทุกวันนี้หากขาดช้อนส้อม ในการกินข้าว คนไทยก็ต้องหาอุปกรณ์อื่นมาใช้แทน ไม่มีใครยอมเปิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ ด้วยเกรงว่าจะต้องอับอาย เพราะกว่าข้าวจะถึง ปากก็คงร่วงจนหมดคำแน่นอน
กับข้าวจานต่างๆของคนไทยนั้นมักมีสีสันสวยงาม มีรสจัดจากพริกและ เครื่องเทศสารพัน อาหารที่มีรสชาติเผ็ดจัด และเค็มจัด จะทำให้ต้องกินข้าวตามเพื่อ ลดระดับความเข้มข้นลง และด้วยความอร่อยอันลงตัวนี้ ทำให้คนไทยสามารถกินข้าว ได้มากและยังไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดท้อง เนื่องจากเครื่องเทศนานาชนิดที่ผสมอยู่ใน อาหารส่วนใหญ่มีคุณสมบัติช่วยย่อย และแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไทยจึงนับเป็นอาหารที่มีความอร่อย และยังแฝงไว้ซึ่งคุณสมบัติ ในการรักษาโรคบางขนิด อีกด้วย
สำรับอาหารไทยในทุกมื้อจะถูกจัดขึ้นอย่างพิถีพิถันไม่ว่าจะมีกับข้าวกี่อย่าง ก็ตาม เพื่อให้เกิดความเอร็ดอร่อย กับข้าวทุกจานที่จัดขึ้น จะต้องมีความสัมพันธ์กัน คนไทยจึงมักจัดสรรสำรับต่างๆ ให้มีความสมดุล หากว่าสำรับใดมีอาหารจานเปรี้ยว ก็ต้องมีจานหวานอย่างหนึ่ง สำหรับกินแก้รสกัน มื้อใดมีอาหารจานเผ็ดก็จะ ต้องมีอาหารจานเค็ม และแกงจืดวางรวมอยู่ด้วย ส่วนแกงส้มนั้นนิยมกินคู่กับไข่เค็ม ไข่ลูกเขย หรือหมูหวาน แกงเผ็ดทั้งหลาย ก็มักจะมีเครื่องแนม เป็นปลาเค็มเสมอ เมื่ออาหารมื้อใดมีจานหวาน แต่ขาดอาหารจานเปรี้ยว ถึงจะมีรสชาติวิเศษเท่าไร อาหารมื้อนั้นก็ไม่อร่อยทันที การจัดสำรับแบบนี้ได้รับสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
คนไทยไม่นิยมที่จะทำกับข้าวครั้งละมากๆ เพราะหากเหลือแล้วกับข้าวบูด ก็ต้องนำไปทิ้งน่าเสียดาย นอกจากจำเป็นต้องทำ เพื่อนำไปทำบุญเลี้ยงพระ หรือใช้ ในงานเลี้ยงต่างๆ หากกับข้าวเหลือ คนไทยก็มีวิธีปรุงอาหารเป็นกับข้าวจานใหม่ได้ โดยการ นำอาหารเผ็ด แกงจืด และอาหารเค็มมารวมกัน แล้วนำไปอุ่นเรียกว่า แกงรวม ส่วน คนไทยภาคเหนือ นั้นก็มีกลวิธีการปรุงอาหารที่เหลือให้เป็นจานใหม่เช่นเดียวกัน เรียกว่า แกงโฮะ โดยนำอาหารที่เหลือมารวมกันจากนั้นนำไปเติมหอมซอย พร้อม กระเทียมที่เจียวจนหอมลงไป ใส่หมู 3 ชั้น พริกชี้ฟ้า ตระไคร้ซอย ตามด้วยวุ้นเส้น หน่อไม้ดอง และใบมะกรูด แกงโฮะในปัจจุบันไม่ได้เป็นการนำอาหารที่เหลือมาปรุง รวมกันแล้ว แต่เป็นการปรุงขึ้นด้วยส่วนผสมใหม่ทั้งหมด และมีการเปลี่ยนแปลง สูตรเพื่อให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น
คนไทยได้คิดสรรสร้าง อาหารต่างๆขึ้นด้วยภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาด ทำให้อาหารไทย กลายเป็นศิลปะที่มีความงดงาม ตั้งแต่สีสันไปจนถึงรสชาติที่ แสนอร่อยถูกลิ้น อีกทั้งยังแฝงสรรพคุณ ทางการรักษาโรคไว้อย่างแยบคาย นับเป็น อาหารที่มากด้วยคุณค่า และยากยิ่งนักที่จะหาอาหารจากที่ใดๆมาเทียบได้

กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้

 

เรื่องดีๆ ที่อยากให้อ่านด้วย

- วิธีทำแกงส้มให้อร่อยเริด

- เรื่องของเป็ด : ก้าบ ก้าบ ก้าบ รสชาติดี ที่ต้องระวัง!

เมนูอาหารไทยแนะนำ

- ไข่ลูกเขย

- หลนปลาเค็ม

- แกงส้มกุ้งยอดมะพร้าว

- แกงเผ็ดเป็ดย่าง

Copyright © 2000 - 2014 ThaifoodDB.com. All rights reserved.
For more information please contact webcookie