รู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้ : บทความเกี่ยวกับอาหารไทย

 


 


 
 

ขุดตำนานส้มสุกลูกไม้ไทยตอนที่ 2 "ทำไมกระต่ายจึงตื่นตูม"

ทีนี้ลองมาดูตำนานมะตูมกันสักนิดนะคะ ความจริงมะตูมนั้นเป็นไม้ที่มีมาแต่โบราณกาลแล้วค่ะ หากจะขุดค้นกันจริงๆ ก็อาจจะเห็นซากของมะตูม หลงเหลืออยู่ในชั้นหินสักชั้นเป็นแน่แท้ค่ะ เพราะว่าตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้น มะตูมเป็นไม้ที่มีความสำคัญ ในการประกอบพิธีทางศาสนาของพราหมณ์ มานานนมเต็มแล้ว เพราะศาสนาพราหมณ์นั้นเชื่อว่า มะตูมเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ใบมะตูมที่มี 3 แฉกนั้น เป็นสัญลักษณ์ของ "ตรีมูรติ" เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 3 องค์ในศาสนาพราหมณ์ แม่สาลิกาคิดว่าท่านคงสถิตอยู่องค์ละแฉกอย่างชัดเจนค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าองค์ไหนสถิตอยู่แฉกไหน องค์ใดจะได้อยู่แฉกบนสุดก็ไม่อาจทราบได้ค่ะ เพราะในตำราก็มิได้ระบุเอาไว้เลย
แต่อย่างไรก็ตามแม่สาลิกาคิดว่า ท่านคงจะไม่แย่งชิงกันอกกระมังคะ เพราะว่าแฉกใบมะตูมไม่น่าจะนำมา ซึ่งผลประโยชน์เหมือนลำดับเก้าอี้รัฐมนตรีในปัจจุบันค่ะ อ้าว… เริ่มแล้วไหมล่ะ แม่สาลิกาหาเรื่องอีกแล้ว อุตส่าห์มีคติการทำงานไว้ว่า "การเมืองไม่ยุ่ง การมุ้งไม่เกี่ยว การกินอย่างเดียวที่เรายึดเป็นสรณะ" เกือบจะพลาดท่าอีกแล้ว ดังนั้น กลับมาเรื่องของเรากันต่อค่ะ เพราะว่ามะตูมกับความเชื่อทางวัฒนธรรมยังไม่จบนั่นเอง
มะตูมกลายมาเป็นไม้ศักดิ์สิทธิได้อย่างไร ลองมาฟังตำนานจากเทือกเขาหิมาลัยกันสักหน่อยนะคะ เขาเล่ากันมาว่า กาลครั้งหนึ่ง มีชายผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ("อิโหน่อิเหน่" เป็นสิ่งไม่มีชีวิตชนิดนึ่งที่น่าสงสาร เพราะที่ไม่มีใครรู้จักเลย) คนหนึ่ง เห็นแท่งหินรูปร่างคุ้นตา แต่ทว่ามีขนาดที่มหึมากว่าที่เคยคุ้นมากนักอยู่ภายใต้หลังคาบ้าน เกิดความรำคาญ และสะท้อนสะเทือนใจ จึงแบกออกไปทิ้งไว้ที่โคนต้นมะตูมหลังบ้านเสียดื้อๆ พอตกกลางคืนน้ำค้างก็พร่างพรมลงมา เกาะอยู่ตามต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลาย จนจวนรุ่งสางใบไม้ก็อิ่มน้ำ เริ่มที่จะรวมตัวกันและหยดลงมาสู่พื้นดิน น้ำค้างตามใบมะตูมก็เช่นกัน ไหลมารวมกันและหยดลงไป ต้ององค์ศิวลึงค์ เป็นอย่างนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เป็นเวลาเนิ่นนานเต็มที จนพระศิวะ ผู้เป็นเจ้าของสัญลักษณ์แห่งเพศแท่งนั้น เกิดความประทับใจในความเพียรอย่างสม่ำเสมอของมะตูม ที่สรงน้ำให้ตั้งแต่เช้ามืดทุกวัน จึงประทานพรให้กลายเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ค่ะ แม่สาลิกาล่ะประหลาดใจเชียวค่ะว่า บทที่พระศิวะท่านจะตัดสินแบบง่ายๆ อย่างนี้ก็มีด้วยหรือ แต่เอาเถอะค่ะอย่างไรเสีย มะตูมก็ได้กลายเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ อย่างเป็นทางการในที่สุดค่ะ ชนิดที่เจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ ท่านจะต้องนำใบเขียวๆ ของมะตูมมาทัดแทนดอกไม้หลากสีสวยงาม ในพระราชพิธีขึ้นครองราชย์เชียวละค่ะ
ทีนี้ลองเขยิบใกล้เข้ามาบ้านเราสักหน่อยหนึ่งนะคะ คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินสำนวน "กระต่ายตื่นตูม" ใช่ไหมคะ "ตูม" ที่ว่านั้นก็ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ "มะตูม" ของเราดีๆ นี่เอง เรื่องก็มีอยู่ว่าหลังจากวิ่งแพ้เต่าในคราวโน้นแล้ว กระต่ายก็ให้อับอายสรรพสัตว์เหลือหลาย จึงหลบลี้หนีหน้าใครๆ ไปนอนเลียแผลใจอยู่ใต้ต้นมะตูมค่ะ กำลังนอนหลับฝันอยู่ดีๆ ก็ดันมีมะตูมสุกลูกหนึ่ง ทะลึ่งตกลงมาเกือบถูกกบาลกระต่ายเข้าให้ อารามตื่นตกใจจากฝันกลางวันอันแสนหวาน ก็หาได้พินิจพิจารณาถึงที่มาของเสียไม่ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งเตลิดเปิดเปิงไป เพราะนึกว่าฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย แถมวิ่งไม่วิ่งเปล่า ยังประกาศบอกชาวบ้านชาวเมืองเขาด้วย ว่าแผ่นดินจะถล่ม ส่ำสัตว์ทั้งหลายก็วิ่งตามกันไปจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด เหยียบกันตายก็หลาย เหนื่อยตายก็มากค่ะ
จนท้ายที่สุด…ราชสีห์เจ้าป่าก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ด้วยการกลับไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนได้พบความจริงว่าสิ่งที่หล่นลงมานั้น เป็นเพียงมะตูมเท่านั้นเอง เฮ่อ… งานนี้นอกจากจะไม่ได้เป็นฮีโร่เหมือนอเมริกาชอบ ได้เป็นในหนังฮอลลีวู้ดประเภท "โลกจะถล่ม แผ่นดินจะทะลาย อเมริกาช่วยได้ทุกทีไป" นั่นแล้ว ยังโดนชาวบ้านเขารุมด่าอีกต่างหาก โทษฐานไม่ดูตาม้าตาเรือ… อะไรจะต้องขายหน้าซ้ำซ้อนปานนั้นก็ไม่รู้นะคะ กระต่ายเอ๋ย… อ้อ… แต่ก็มีบางตำรานะคะบอกว่าเป็น "ลูกตาล" ค่ะ แต่แม่สาลิกาค่อนข้างจะสนับสนุนฝ่ายที่บอกว่าเป็นมะตูมเสียมากกว่า เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องกลายเป็นสำนวน "กระต่ายตื่นตาล " ไปแล้วสิคะ เอ… หรือว่าจะมาจากการที่กระต่ายตกใจเสียงลูกตาลตกตูมตาม ก็อาจจะเป็น
ได้ค่ะ
พออ่านเรื่องกระต่ายตื่นตูมจบ แม่สาลิกาก็อดนึกย้อนไปถึงเรื่องศิวลึงค์กับใบมะตูมไม่ได้ ตามสไตล์คนที่ชอบคิดอะไรแบบผ่าเหล่าผ่ากอค่ะ หากช่วงที่ชายผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คนนั้น อัปเปหิศิวลึงค์ที่แสนจะศักดิ์สิทธิ์ออกไปจากชายคาบ้าน ในฤดูหนาวที่มะฅูมสุกพอดี และผลัดใบไปแล้ว ต้นแห้งโกร๋นรอผลิใบอ่อนรับหน้าฝน จะเกิดอะไรขึ้นกับมะตูมคะ หากว่าสิ่งที่ตกลงมาต้ององค์ศิวลึงค์ มิใช่น้ำค้างยามเช้าที่แสนจะฉ่ำชื่น แต่กลับเป็นมะตูมสุกลูกเหลืองๆ ที่เปลือกแข็งโป๊กลูกหนึ่ง จนทำให้ศิวลึงค์บิ่นสักส่วนสองส่วนน่ะค่ะ ไม่อยากจะนึกในแง่ร้ายเลยค่ะว่า มะตูมจะกลายเป็นไม้ถูกสาป เหมือนดอกอุตพิตอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียวหรือเปล่าหนอ…

กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้

 

 

 

เรื่องดีๆ ที่อยากให้อ่านด้วย


- ขุดตำนานส้มสูกลูกไม้ไทยตอนที่ 1 "ทำไมกระต่ายจึงตื่นตูม"
 

เมนูอาหารไทยแนะนำ
 
 


Copyright © 2013 Thaifood DB dot com. All rights reserved.
For more information please contact webcookie