รู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้ : บทความเกี่ยวกับอาหารไทย

 


 


 
 

น้ำตาล….ความหวานที่มีผลต่ออารมณ์ก้าวร้าว

สงสัยมานานเหมือนกันว่า ทำไมจึงได้ยินคนสมัยก่อน กระเซ้ากันเวลาเห็นใครดุมากๆ ว่า ไปกินน้ำตาลมาจากไหน? เท่าที่ทราบตอนนั้นก็คือเขาประชด เปรียบเทียบคนดุไปถึงสุนัขดุเท่านั้นเอง เพราะว่ากันว่าถ้าอยากให้สุนัขดุ ต้องป้อนน้ำตาลตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข แล้วเมื่อโตขึ้นมาละก็จะดุนักเชียว บ้านไหนที่มีลูกสาวสวย สุนัขบ้านนั้นมักจะโชคดี ได้กินน้ำตาลมากเป็นพิเศษ โชคดีที่บ้านแม่สาลิกาไม่มีสุนัขตัวใด โชคร้ายมาอาศัยอยู่ ไม่อย่างนั้นมันคงน่าสงสารน่าดู เพราะดูเหมือนว่าชาตินี้ จะไม่มีวันได้ลิ้มรสน้ำตาลกะเขาบ้างเลย :-)

ไม่น่าเชื่อว่า น้ำตาลที่มีรสหวานอร่อยลิ้นนั้น จะมีผลร้ายต่อระบบประสาท และภาวะอารมณ์ของคนเรา ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ซึมเศร้า ก้าวร้าว ต่อต้านสังคม หรือ อาจจะรุนแรงถึงขั้นก่ออาชญากรรมได้เลยทีเดียว อาชญากรที่ถูกจับได้ในสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงมากกว่าปกติหลายเท่า เช่น ฟาสต์ฟู้ด เค้ก คุกกี้ ช็อกโกเลต ไอศกรีม ลูกกวาด กาแฟ น้ำอัดลม และของหวาน

ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ อธิบายถึงการทำงานของน้ำตาล ที่ไปมีผลต่ออารมณ์เอาไว้ว่า เมื่อน้ำตาลจำนวนมากเข้าไปในร่างกาย มันจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น แล้วตับอ่อนก็จะหลั่งอินซูลินออกมา เพื่อขับน้ำตาลในเลือดส่วนเกินออกไป จนกระทั่งระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลง เกิดภาวะที่เรียกว่า " Hypoglycemia"

ในภาวะดังกล่าว Cerebrum ซึ่งเป็นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้ การคิดค้น พฤติกรรม จิตสำนึก และสติสัมปชัญญะ ก็จะปิดตัวลง พลังงานของสมองก็จึงจะส่งผ่านไปยังก้านสมอง ซึ่งควบคุมสัญชาตญาณ และกิริยาอาการดั้งเดิมของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยความก้าวร้าว รุนแรง ไร้เหตุผล ทำให้คนที่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำนี้ สามารถทำอะไรโดยไม่ทันยั้งคิดได้ง่ายขึ้น

จากการสำรวจในคุกสหรัฐฯ พบว่า 80-85% ของนักโทษมีน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ไม่แตกต่างไปจากกลุ่มคนที่เป็นโรคจิต โรคประสาท หรือจิตเภท จากข้อมูลนี้ทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำหลายแห่ง ได้ทดลองเปลี่ยนอาหารโดยลดปริมาณอาหาร ที่มีน้ำตาลลง เปลี่ยนเป็นธัญพืชไม่ขัดขาวและผักผลไม้มากขึ้น ก็พบว่าการก่อเหตุทะเลาะวิวาทลดลง นักโทษอยู่ในความสงบมากขึ้น กระวนกระวายน้อยลง และยังสุขภาพดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

เรื่องน้ำตาลกับอารมณ์นี้ แม่สาลิกาขอยืนยันนะคะ ว่ามีผลต่ออารมณ์ก้าวร้าวจริงๆ ไม่ว่าจะได้รับมากเกินไปอย่างที่กล่าวมา หรือไม่ได้รับอย่างเพียงพอ เพราะว่าสมัยเรียนหนังสืออยู่นั้น แม่สาลิกามีเพื่อนคนหนึ่งชอบดื่มกาแฟใส่น้ำตาลมาก แต่เธอเป็นคนที่ไม่ค่อยจะยอมคน มีอยู่วันหนึ่ง น้ำที่ใช้ชงกาแฟก็ไม่ร้อน แต่แม่ค้าก็ไม่ได้ดู รีบชงส่ง ๆ ให้มา ผลปรากฏว่า เธอจิบไปอึกเดียวแล้ววาง ถ้วยกระแทกลงจนกาแฟกระฉอกออกมา หลายคนตกใจ "ทำไมล่ะ!!! " เพื่อนๆ อุทานด้วยความพิศวง เธอชี้ให้ดูด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่า "เห็นไหมล่ะ น้ำตาลที่ก้นถ้วยมันไม่ละลายเอาเสียเลย มิน่า ขมเป็นบ้า!…" เฮ้อ ก็เธอเล่นไม่ยอมคนเลยนี่น๊า…. คนเสียหน่อยก็ละลายแล้วล่ะ แม่สาลิกาจึงอยากจะสรุปว่า ทั้งภาวะมีน้ำตาลมากเกินไป หรือน้ำตาลไม่เพียงพอ ก็ส่งผลต่ออารมณ์ก้าวร้าวได้ทั้งนั้นจริงๆ ค่ะ

กลับไปหน้ารู้ไว้ใช่ว่า สาระน่ารู้

 

 

 

เรื่องดีๆ ที่อยากให้อ่านด้วย


- พี่น้องแห่งความหวานตระกูลน้ำตาล
 

เมนูอาหารไทยแนะนำ
 
 


Copyright © 2013 Thaifood DB dot com. All rights reserved.
For more information please contact webcookie